ใต้สุดสยาม เมืองงามชายแดน

YALA

 ประกาศหาคู่ผ่านอินเตอร์เน็ต GhostJoke Discovery Thailand
Discovery Thailand 2

SaKai
รูปร่าง นิสัยและสติปัญญา
ลักษณะรูปพรรณสัณฐานของซาไก มีส่วนคล้ายคลึงกับกลุ่มชนซึ่งเป็นกลุ่มเชื้อชาติเดียวกันคือ พวกนิกริโต ที่อาศัยอยู่ในประเทศแถบแอฟริกา เพียงแต่สูงน้อยกว่า และดำน้อยกว่าเท่านั้นเอง ส่วนสูงของซาไกโดยเฉลี่ย 140 - 150 เซนติเมตร ผู้หญิงต่ำกว่าผู้ชายเล็กน้อย ผิวดำค่อนข้างไปทางสีน้ำตาลไหม้ ไม่ได้ดำอมเขียวเหมือนอย่างนิโกร กะโหลกศรีษะกลมมาก ผมหยิกขมวดกลมเป็นก้นหอยติดหนังศรีษะ (ไม่อาจใช้หวีซี่ถี่ๆ ได้ ต้องใช้ซี่ห่างๆที่ทำจากไม้ไผ่) คิ้วโตหนา นัยน์ตาสีดำกลมโต ขนตายาวงอน จมูกแบนกว้าง ริมฝีปากหนา ฟันซี่สั้นๆ แต่ใหญ่ ใบหูเล็ก ท้องป่อง ตะโพกแฟบ นิ้วมือนิ้วเท้าใหญ่ แข็งแรงล่ำสัน เดินป่าขึ้นต้นไม้เก่ง
นิสัยใจคอ โดยปกติมีนิสัยร่าเริง ยิ้มง่าย อุปนิสัยเยือกเย็นและใจดี พูดน้อย ตรงไปตรงมาไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ไม่ค่อยขยันทำงาน ยอมอดเมื่ออาหารหมดเพียงเพราะเกียจคร้านออกหาอาหาร นับถือผู้ใดแล้วจะเคารพเชื่อฟังอย่างเคร่งครัด แต่ถ้าไม่ชอบใครแล้วก็ยากที่จะเปลี่ยนให้ชอบได้ อดทน กินจุ กินเก่ง ถ้ามีอาหารก็จะกินตลอดวัน ถ้าไม่มีก็จะอดเป็นวันสองวัน จิตใจสงบ ไม่ฟุ้งเฟ้อทะเยอทะยาน ไม่มีความคิดที่จะกักตุนอาหารไว้มากๆ ไม่สะสมทรัพย์ สมบัติ ยินดีอยู่กับป่าเขา ยอมหักฝาบ้านและฉีกผ้าห่มเอาทำฟืน ก่อไฟเพียงเพราะเกียจคร้านที่จะออกไปหาฟืน ผู้หญิงชอบสีแดง เงาะซาไกที่ จ.พัทลุงที่มาเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จฯ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ เสื้อผ้า หรือขนม ผู้ชายชอบสีขาว เป็นคนช่างสังเกต ซาไกกลุ่มที่ได้คลุกคลีกับชาวบ้านจะชอบดื่มสุรา แต่กลุ่มที่ยังอาศัยอยู่ในป่ามีการติดต่อกับชาวบ้านน้อยไม่ดื่ม (เช่นกลุ่มที่ เขาน้ำเต้า ตำบลลิพัง อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง) ทุกคนไม่ชอบอาบน้ำและซักเสื้อผ้า เพราะเชื่อว่าทำให้สัตว์ผิดกลิ่น ล่าได้ยากจึงมักมีเสื้อผ้าเพียงชุดเดียว ถ้าซักก็เปลือยกายจนกว่าจะแห้ง สติปัญญา ซาไกทั่วไปมีแววฉลาดหลักแหลม สามารถเรียนรู้สิ่งที่มีความสัมพันธ์กับวิถีชีวิตของเขาโดยเร็ว และมีความจำดี เช่น สามารถเรียนรู้ภาษาของคนอื่นได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะคำที่เกี่ยวกับการยังชีพ เด็กซาไกที่ได้เข้าเรียนในโรงเรียน เช่น ที่โรงเรียน "บ้านซาไก อาสาพัฒนาวิทยาลัยครูยะลา 1" อำเภอธารโต จังหวัดยะลา เด็กซาไกทุกคนเรียนหนังสืออยู่ในเกณฑ์ดี ส่วนผู้ใหญ่ที่ไม่ได้รับการศึกษาจะซื่อมาก จนดูเหมือนโง่ไม่รู้อะไรเอาเสียเลย แต่ถ้าได้คุ้นเคยกับสังคมเมืองบ้างจะมีความฉลาดไหวพริบ ทันคน มองเห็นการณ์ไกล สังเกตได้จากคนที่เป็นหัวหน้ากลุ่มจะเป็นคนหลักแหลมมีความคิดก้าวหน้า จึงกล่าวได้ว่าเขาไม่ใช่คนโง่มาแต่กำเนิด หากสภาพแวดล้อม คือ ป่าเขาทำให้เขาไร้เล่ห์เหลี่ยมมายาจนถูกดูคล้ายกับเป็นคนโง่
บริเวณพื้นที่อาศัย เงาะซาไกเมืองพัทลุง ครั้งรัชกาลที่ 5
ซาไกมีพื้นที่อาศัยกระจัดกระจายอยู่ทางตอนใต้ของประเทศไทย ตลอดไปถึงรัฐเคดาห์และปาหัง ประเทศมาเลเซีย และเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ดังกล่าวแล้ว สำหรับในตอนใต้ของประเทศไทย สืบย้อนหลังลงไปประมาณ 25 ปี ชนกลุ่มนี้อาศัยอยู่ตามป่าในเขตจังหวัดพัทลุง ตรัง สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เมื่อปี พ.ศ.2520 มีผู้พบว่ามีซาไกอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ต่อไปนี้ คือ จังหวัดสตูล มีในเขตอำเภอทุ่งหว้า จังหวัดยะลา มีในเขตอำเภอธารโต อำเภอบันนังสตา และอำเภอเบตง บริเวณชายแดนมาเลเซีย จังหวัดนราธิวาส ในเขตอำเภอระแงะ และอำเภอแว้ง ใกล้ชาย แดนมาเลเซียเช่นกัน ส่วนในจังหวัดอื่น ๆ มีน้อย เพราะเป็นช่วงที่ทางราชการปราบปรามผู้ก่อการร้าย พวกเขาจะหลบไปอยู่ในถิ่นอื่น เช่น พวกที่อยู่ในเขตพัทลุง ตรัง จะอพยพไปอยู่กับพวกที่ทุ่งหว้า จังหวัดสตูลบ้าง ยะลาบ้าง พวกที่อยู่ในเขตจังหวัดนราธิวาสบางกลุ่มก็อพยพไปอยู่ที่จังหวัดยะลา และบางกลุ่มก็หลบหนีเข้าไปอาศัยอยู่ในเขตประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526-2528 พบซาไกอยู่ในบริเวณภาคใต้หลายแห่งดังกล่าวแล้วตอนต้น ภูมิประเทศที่พวกซาไกเลือกเป็นที่อยู่อาศัย มักจะเป็นเนินสูง ซึ่งอาจจะเรียกว่า เนินเขาสลับภูเขาหรือตามเชิงผา มีป่าสูงใหญ่ปกคลุมโดยทั่วไป เป็นบริเวณที่อยู่ใกล้ลำธารหรือน้ำตก มีสัตว์ให้ล่าเป็นอาหารได้ชุกชุม มีเผือกมันอยู่ในป่าอุดมสมบูรณ์ และเป็นบริเวณที่มีไม้ซางหรือมีอยู่ไม่ไกลนัก เพราะไม้ซางเป็นวัสดุที่สำคัญที่ซาไกใช้ทำเป็นอาวุธหรือกระบอกตุด พวกซาไกจะรวมกันอยู่เป็นกลุ่ม ๆ กลุ่มละประมาณ 20-50 คน จะมีการอพยพโยกย้ายที่อยู่เสมอ ปกติที่แห่งหนึ่งจะอยู่ 3-4 วัน หรืออย่างมากไม่เกิน 10-15 วัน สาเหตุสำคัญที่ทำให้พวกเขาอพยพ คือ
1เผือกมันที่อยู่ใกล้ ๆ บริเวณที่อยู่หาได้ยากหรือหมดลง
2มีคนตายในหมู่บ้านของเขา เพราะเขากลัวผีและกลัวเสือที่จะมาขุดกินศพ
3เมื่อถ่ายอุจจาระมาถึงบริเวณที่อยู่อาศัย เพราะเขาจะถ่ายอุจจาระจากที่ไกลแล้วค่อยขยับเข้าใกล้ที่อยู่เนรื่อย ๆ เมื่อมาถึงเมื่อใดก็ย้ายเมื่อนั้น และ
4เมื่อคนภายนอกไปพบและเอ่ยขอลูก
เมื่อถึงคราวอพยพก่อนออกเดินทางเขาจะเอาขี้เถ้าออกจากกองไฟทาตัวและหน้าก่อน เชื่อว่าผีจะจำไม่ได้ ตามไปทำร้ายไม่ถูก สมัยที่ต้องใช้ไม้สีไฟทำไฟ เขาจะช่วยกันถือดุ้นไฟติดมือกันไปด้วยคนละดุ้น เพื่อความสะดวกในการก่อไฟใหม่ ในการอพยพหัวหน้ากลุ่มจะเป็นผู้เดินนำหน้า เป็นผู้แบกสำภาระมากกว่าคนอื่น ๆ เพราะถือว่าหัวหน้าต้องเป็นผู้เสียสละรับภาระมากกว่าคนอื่น การเลือกบริเวณที่อยู่ใหม่ นอกจากจะต้องเป็นบริเวณที่อุดมสมบูรณ์ด้วยอาหารและน้ำแล้ว จะต้องเป็นบริเวณที่มีผีเจ้าที่ไม่แรงด้วย พวกเขาจะสังเกตจากความรู้สึกสังหรณ์ใจ ใจคอสั่น ขนพอง คือเมื่อเดินทางผ่านบริเวณใด ปรากฏ-การณ์นี้เกิดขึ้น เขาเชื่อว่าบริเวณนั้นผีเจ้าที่แรง จะเอาเป็นที่อยู่อาศัยไม่ได้ ถ้าฝ่าฝืนจะถูกลงโทษถึงตาย แม้จะยิงสัตว์ก็ห้ามเด็ดขาด
Design by Narong Rattanaya
If you want more information
Please contact Webmaster